ตอบกระทู้
วันที่: 21/01/2568 17:16
เรียนสมาชิก 04735
ใบสมัครสมาชิกสหกรณ์ (ประเภทสมทบ) |
ข้อ 5. คุณสมบัติของสมาชิกสมทบ สมาชิกสมทบต้องมีคุณสมบัติดังนี้
(1) เป็นผู้เห็นชอบในวัตถุประสงค์ของสหกรณ์
(2) เป็นบุคคลธรรมดาและบรรลุนิติภาวะ
ก. เป็นคู่สมรส หรือบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือบิดามารดา ของสมาชิกหรือ
ข. เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข หรือ ลูกจ้างชั่วคราวปฏิบัติงานที่ รพ.สต
(3) มีภูมิลำเนาในจังหวัดอุดรธานี
(4) เป็นผู้ที่มีความประพฤติดีงาม
(5) เป็นผู้ที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ มติ และคำสั่งของสหกรณ์
(6) มิได้เป็นสมาชิกในสหกรณ์ออมทรัพย์อื่นที่มีวัตถุประสงค์ในการให้กู้ยืมเงิน
วิธีรับสมัครสมาชิกสมทบ และสิทธิ หน้าที่ของสมาชิกสมทบ
ข้อ 6. ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกสมทบต้องยื่นใบสมัครถึงสหกรณ์ตามแบบที่กำหนด และจะต้องมีสมาชิกลงลายมือชื่อรับรองอย่างน้อยสองคน
ข้อ 7. ให้คณะกรรมการพิจารณารับผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตาม ข้อ 5 เข้าเป็นสมาชิกสมทบพร้อมทั้งกำหนดเลขทะเบียนสมาชิก วันเวลาให้ผู้สมัครชำระค่าหุ้น ค่าธรรมเนียมแรกเข้า และลงลายมือชื่อไว้ในใบสมัครสมาชิก
ในการรับเข้าเป็นสมาชิกสมทบตามความในวรรคแรก คณะกรรมการอาจมอบหมายให้ผู้จัดการหรือเจ้าหน้าที่ดำเนินการเรียกเก็บเงินค่าหุ้น ค่าธรรมเนียมแรกเข้า และให้ผู้สมัครลงลายมือชื่อในทะเบียนสมาชิก แล้วนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติ
เมื่อผู้จัดการหรือเจ้าหน้าที่รับเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ให้ถือว่าผู้สมัครเป็นสมาชิกสมทบตั้งแต่วันสมัคร แล้วแจ้งการรับสมาชิกสมทบเข้าใหม่ให้ที่ประชุมคณะกรรมการทราบในคราวถัดไป
ถ้าคณะกรรมการไม่รับสมัครเข้าเป็นสมาชิกสมทบไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ ให้สหกรณ์แจ้งมติให้ผู้สมัครทราบ และคืนเงินค่าหุ้นและค่าธรรมเนียมแรกเข้าที่ได้รับไว้ให้แก่ผู้สมัคร ถ้าผู้สมัครร้องขอให้คณะกรรมการนำเรื่องเสนอที่ประชุมใหญ่เพื่อวินิจฉัยชี้ขาด มติที่ประชุมใหญ่ให้รับเข้าเป็นสมาชิกสมทบต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม
ข้อ 8 ผู้เข้าเป็นสมาชิกสมทบต้องชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าให้แก่สหกรณ์ คนละ 50 บาท ค่าธรรมเนียมแรกเข้านี้ถือเป็นรายได้ของสหกรณ์จะเรียกคืนไม่ได้
สมาชิกสมทบที่เคยลาออกจากสหกรณ์ และสมัครเข้าเป็นสมาชิกสมทบใหม่จะต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมแรกเข้าจำนวน 200 บาท และมีระยะเวลาดังต่อไปนี้
(1) สมัครสมาชิกสมทบ ครั้งที่ 2 จะต้องเว้นระยะเวลาออกจากสมาชิกสหกรณ์สมทบ ครบรอบ 6 เดือน
(2) สมัครสมาชิกสมทบ ครั้งที่ 3 จะต้องเว้นระยะเวลาออกจากสมาชิกสหกรณ์สมทบ 1 ปี 6 เดือน
(3) สมัครสมาชิกสมทบ ครั้งที่ 4 จะต้องเว้นระยะเวลาออกจากสมาชิกสหกรณ์สมทบ 2 ปี 6 เดือน
เมื่อเป็นสมาชิกสหกรณ์ ครบ 4 ครั้ง หากลาออกสหกรณ์ไม่รับเข้าเป็นสมาชิกสมทบอีก
(แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2563)
ข้อ 9. เมื่อผู้เข้าเป็นสมาชิกสมทบได้ชำระค่าหุ้น ค่าธรรมเนียมแรกเข้า และลงลายมือชื่อในทะเบียนสมาชิกแล้วจึงให้ถือว่าผู้นั้นได้สิทธิและหน้าที่ในฐานะสมาชิกสมทบ
ข้อ 10. สมาชิกสมทบจะต้องถือหุ้นของสหกรณ์เมื่อแรกเข้าขั้นต่ำเป็นจำนวนหนึ่งร้อยหุ้นเป็นเงินหนึ่งพันบาท
ข้อ 11. สิทธิของสมาชิกสมทบมีดังต่อไปนี้
(1) สมาชิกสมทบถือหุ้นในสหกรณ์ได้ไม่เกิน 50,000 หุ้น หรือ 500,000 บาท และมีความรับผิดเพียงไม่เกินค่าหุ้นยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าหุ้นที่เหลือ
ในกรณีที่สมาชิกจะถือหุ้นเกินกว่า 50,000 หุ้น หรือ 500,000 บาท ให้เป็นไปตามประกาศของสหกรณ์
(2) สมาชิกมีสิทธิฝากเงินกับสหกรณ์ทุกประเภท
(3) ได้รับเงินกู้จากสหกรณ์รวมกันทุกประเภทไม่เกินร้อยละ 80 ของมูลค่าหุ้นและ หรือเงินฝากที่สมาชิกสมทบนั้นมีอยู่ในเวลานั้น
(4) ได้รับสวัสดิการตามที่คณะกรรมการเห็นสมควรและเป็นไปตามระเบียบของสหกรณ์
(5) ได้รับเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืน”
(แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 4 พ.ศ. 2564)
ข้อ 12. หน้าที่ของสมาชิกสมทบมีดังต่อไปนี้
(1) ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติ และคำสั่งของสหกรณ์
(2) เข้าร่วมประชุมทุกครั้งที่สหกรณ์นัดหมาย
(3) ส่งเสริมสนับสนุนกิจการของสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์เป็นองค์การที่เข็มแข็ง
(4) สอดส่องดูแลกิจการของสหกรณ์
(5) ร่วมมือกับคณะกรรมการ พัฒนาสหกรณ์ให้เจริญรุ่งเรืองและมั่นคง สมาชิกสมทบไม่ให้มีสิทธิในเรื่องดังต่อไปนี้
(5.1) นับชื่อเข้าเป็นองค์ประชุมในการประชุมใหญ่
(5.2) สิทธิการออกเสียงในที่ประชุมใหญ่
(5.3) สิทธิได้รับเลือกเข้าเป็นคณะกรรมการ
หมวดที่ 3
การขาดจากสมาชิกภาพของสมาชิกสมทบ
ข้อ 13. การขาดจากสมาชิกภาพของสมาชิกสมทบ สมาชิกสมทบย่อมขาดจากสมาชิกภาพเพราะเหตุใด ๆ ดังต่อไปนี้
(1) ตาย
(2) เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
(3) ต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย
(4) ลาออกจากสหกรณ์และได้รับอนุญาตแล้ว
(5) ขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับข้อ 50
(6) ถูกให้ออกจากสหกรณ์
ข้อ 14. การลาออกจากสหกรณ์ของสมาชิกสมทบ สมาชิกสมทบอาจขอลาออกจากสหกรณ์ได้
โดยแสดงความจำนงเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการ และเมื่อคณะกรรมการได้สอบสวนพิจารณาเห็นว่าเป็นการชอบด้วยข้อบังคับและอนุญาตแล้วจึงให้ถือว่าออกจากสหกรณ์ได้
คณะกรรมการอาจมอบหมายให้กรรมการคนใดคนหนึ่ง หรือหลายคน หรือผู้จัดการ ดำเนินการเพื่อพิจารณาตามวรรคแรก
ข้อ 15. การให้ออกจากสหกรณ์ของสมาชิกสมทบ สมาชิกสมทบอาจถูกให้ออกจากสหกรณ์เพราะเหตุใด ๆ ดังต่อไปนี้
(1) ไม่ชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า
(2) ไม่ลงลายมือชื่อในทะเบียนสมาชิกสมทบ
(3) ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ มติและคำสั่งของสหกรณ์
(4) แสดงตนเป็นปฏิปักษ์หรือทำให้เสื่อมเสียต่อสหกรณ์หรือขบวนการสหกรณ์ ไม่ว่าโดยประการใด ๆ
ข้อ 16. สมาชิกสมทบคนใดมีการเปลี่ยนแปลงคำนำหน้าชื่อ ชื่อ ชื่อสกุล สัญชาติและที่อยู่
ต้องแจ้งให้สหกรณ์ทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
อ่านเพิ่มเติมที่ >> ระเบียบสหกรณ์ฯ
วันที่: 21/01/2568 17:16
เรียนสมาชิก admin คำตอบนี้อาจเกี่ยวข้องกับกระทู้ของคุณ
การกู้โดยใช้หุ้นค้ำประกัน (กู้สามัญไม่เกินมูลค่าหุ้น) สมาชิกต้องมีหนี้น้อยกว่าหุ้น หรือไม่มีหนี้เลย ครับ โดย
สมาชิกสามัญ สามารถกู้ได้ 90% ของทุนเรือนหุ้น
สมาชิกสมทบ สามารถกู้ได้ 80% ของทุนเรือนหุ้น
นำสำเนาบัญชีธนาคารและบัตรประชาชน เข้ามาติดต่อที่สหกรณ์ได้เลยครับเจ้าหน้าที่จะพิมพ์แบบฟอร์มจากระบบให้ลงลายมือชื่อครับ
วันที่: 21/01/2568 17:16
เรียนสมาชิก admin คำตอบนี้อาจเกี่ยวข้องกับกระทู้ของคุณ
การคำนวณสิทธิ์กู้ต้องทราบรายละเอียดการหักเงินและค่าใช้จ่ายสินเดือนขอให้ติดต่อฝ่ายสินเชื่อเพื่อคำนวณสิทธิ์การกู้ครับ
- 093-3238503 ผู้ช่วยฝ่ายสินเชื่อ (จารุวัฒน์)
- 089-5698927 ฝ่ายสินเชื่อ (ภัทธราวดี)
- 082-1077538 ฝ่ายสินเชื่อ (ศิรดา/เสาวลักษณ์
วันที่: 21/01/2568 17:16
เรียนสมาชิก admin คำตอบนี้อาจเกี่ยวข้องกับกระทู้ของคุณ
ใบคำขอ เปลี่ยนแปลงเงินฝากรายเดือน |
วันที่: 21/01/2568 17:16
เรียนสมาชิก admin คำตอบนี้อาจเกี่ยวข้องกับกระทู้ของคุณ
สมาชิกสามารถซื้อหุ้นเพิ่มเป็นเงินสด หรือ ให้หักจากเงินเดือนทุกเดือนได้
ทั้งนี้
**สมาชิกสามัญ**
หากสมาชิกมีหุ้นยังไม่ถึง 1.5 ล้านบาท สามารถซื้อเพิ่มเป็นเงินสด หรือโอนเข้าบัญชีแล้วโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ได้
แต่ถ้ามีหุ้นเกิน 1.5 ล้านบาทแล้วสามารถหักจากเงินเดือนได้ไม่เกิน 50% ของเงินได้รายเดือน
** ส่วนสมาชิกสมทบ ** สามารถซื้อหุ้นรวมกับหุ้นเดิมได้ไม่เกิน 5 แสนบาทถ้วน ครับ
หนังสือขอเปลี่ยนแปลงค่าหุ้นรายเดือน
วันที่: 21/01/2568 17:16
เรียนสมาชิก admin คำตอบนี้อาจเกี่ยวข้องกับกระทู้ของคุณ
การสมัครสมาชิกสามัญ
* ผู้ที่ลาออกจากการเป็นสมาชิกแล้ว สหกรณ์จะรับเข้าเป็นสมาชิกใหม่ต้องมีคุณสมบัติและตามระยะเวลา ดังนี้
* สมัครเป็นสมาชิก ครั้งที่ 2 ต้องเว้นระยะเวลาจาวันที่ลาออกแล้ว 6 เดือน จึงสามารถสมัครใหม่ได้
* สมัครเป็นสมาชิก ครั้งที่ 3 ต้องเว้นระยะเวลาจาวันที่ลาออกแล้ว 1 ปี 6 เดือน จึงสามารถสมัครใหม่ได้
* สมัครเป็นสมาชิก ครั้งที่ 4 ต้องเว้นระยะเวลาจาวันที่ลาออกแล้ว 2 ปี จึงสามารถสมัครใหม่ได้
> ค่าธรรมเนียมการสมัคร ครั้งที่ 1 จำนวน 100 บาท
> ค่าธรรมเนียมการสมัคร ครั้งที่ 2 เป็นต้นไป ครั้งละ 500 บาท
> หากครบ 4 ครั้งแล้วไม่สามารถสมัครเข้าใหม่ได้
ครับ
วันที่: 21/01/2568 17:16
เรียนสมาชิก admin คำตอบนี้อาจเกี่ยวข้องกับกระทู้ของคุณ
# การจ่ายเงินปันผล-เฉลี่ยคืน ปกติจะจ่ายหลังจากประชุมใหญ่สามัญประจำปีเสร็จสิ้นแล้ว (ธนาคารที่มีระบบอนุมัติออนไลน์จ่ายในวันประชุมใหญ่เมื่อประชุมใหญ่เสร็จสิ้นแล้ว,ธนาคารอื่นจ่ายหลังวันประชุมใหญ่ ในวันทำการถัดมา)
# สมาชิกควรตรวจสอบเลขที่บัญชีสำหรับโอนเงินปันผลของตนเองให้ถูกต้องและตรงกับในระบบก่อนที่สหกรณ์จะโอนจ่ายเงินปันผล-เฉลี่ยคืน
โปรแกรมคำนวณปันผลเฉลี่ยคืน (แก้ไขข้อมูลในแถบสี)
# ปันผลและเฉลี่ยคืนของสหกรณ์ออมทรัพย์ มาจากผลการดำเนินงานของสหกรณ์ในแต่ละปี โดยเงินปันผลมาจาก การลงทุนในหุ้น ส่วนเงินเฉลี่ยคืนมาจากดอกเบี้ยเงินกู้ที่สมาชิกชำระให้แก่สหกรณ์
เงินปันผล
เงินปันผลของสหกรณ์ออมทรัพย์ คิดคำนวณจากเงินของสมาชิกที่ลงทุนถือหุ้นในสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยคิดอัตราปันผลเป็นร้อยละของเงินลงทุนของสมาชิก เช่น หากสมาชิกถือหุ้น 10,000 บาท และสหกรณ์มีมติให้จ่ายเงินปันผล สมมุติว่า 6% สมาชิกจะได้รับเงินปันผล 600 บาท
เงินเฉลี่ยคืน
เงินเฉลี่ยคืนของสหกรณ์ออมทรัพย์ คิดคำนวณจากดอกเบี้ยเงินกู้ที่สมาชิกชำระให้แก่สหกรณ์ โดยคิดอัตราเฉลี่ยคืนเป็นร้อยละของดอกเบี้ยเงินกู้ที่สมาชิกชำระ เช่น หากสมาชิกกู้เงินจากสหกรณ์ 100,000 บาท และชำระดอกเบี้ยเงินกู้ 10,000 บาท และสหกรณ์มีมติให้จ่ายเงินเฉลี่ยคืน สมมุติว่า 3% สมาชิกจะได้รับเงินเฉลี่ยคืน 300 บาท
ทั้งนี้ เงินปันผลและเฉลี่ยคืนของสหกรณ์ออมทรัพย์ จะถูกนำไปแบ่งจ่ายให้กับสมาชิกตามสัดส่วนเงินลงทุนหรือดอกเบี้ยเงินกู้ของสมาชิก โดยสมาชิกที่ถือหุ้นหรือกู้เงินจากสหกรณ์มากก็จะได้รับเงินปันผลหรือเฉลี่ยคืนมากตามไปด้วย
ตัวอย่างการคำนวณเงินปันผลและเฉลี่ยคืนของสหกรณ์ออมทรัพย์
สมมติว่าสมาชิกคนหนึ่งถือหุ้นในสหกรณ์ออมทรัพย์ 10,000 บาท และกู้เงินจากสหกรณ์ 100,000 บาท โดยชำระดอกเบี้ยเงินกู้ 10,000 บาท ดังนี้
- เงินปันผล = 10,000 * 6/100 = 600 บาท
- เงินเฉลี่ยคืน = 10,000 * 3/100 = 300 บาท
ดังนั้น สมาชิกจะได้รับเงินปันผลและเฉลี่ยคืนรวมกัน 900 บาท
วันที่: 21/01/2568 17:16
เรียนสมาชิก admin คำตอบนี้อาจเกี่ยวข้องกับกระทู้ของคุณ
รายละเอียดการให้บริการเงินฝากตามนี้ครับ
วันที่: 21/01/2568 17:16
เรียนสมาชิก admin คำตอบนี้อาจเกี่ยวข้องกับกระทู้ของคุณ
เปิดให้บริการเงินฝากออมทรัพย์เอทีเอ็ม
รายละเอียดเพิ่มเติม >> เปิดให้บริการเงินฝากออมทรัพย์เอทีเอ็ม
วันที่: 21/01/2568 17:16
เรียนสมาชิก admin คำตอบนี้อาจเกี่ยวข้องกับกระทู้ของคุณ